10 เมนูแนะนำ

1. เทมปุระรวม

เที่ยงแล้ว กินข้าวหรือยัง?

            สำหรับมื้อเที่ยงนี้ถ้ายังไม่รู้จะทานอะไร Cruise Restaurant ขอนำเสนอเมนูที่ดูธรรมดา แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการทางอาหารอย่างเมนู “เทมปุระรวม” ที่แม้ภายนอกจะดูเป็นเมนูธรรมดาจานหนึ่งแต่เมื่อถูกเสิร์ฟโดยเชฟยอดฝีมือของทางร้านมันจะกลายเป็นเมนูเทมปุระรวมสุดพิเศษที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างแน่นอน

            ด้วยอาหารมากมายหลากหลายชนิดภายในจานซึ่งประกอบไปด้วย กุ้งขาวและปลาคัดพิเศษโดยของทางร้าน บวกกับผักสดคุณภาพจากโครงการหลวงอย่าง หอมใหญ่ มะเขือยาว และเห็ดตามฤดูกาล ทำให้เมนูอาหารจานนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ แถมยังเหมาะสำหรับบุคคลที่ไม่มีเวลาดูแลตนเองอีกด้วยเพราะอาหารเพียงแค่จานเดียวกลับให้คุณค่าทางอาหารครบถ้วนแถมยังอิ่มอร่อยด้วยปริมาณอาหารที่ทางร้านมอบให้จนจุใจทั้งเนื้อสัตว์คุณภาพดีและผักปลอดสารพิษ แต่พิเศษไปกว่านั้นคือน้ำจิ้มเทมปุระสูตรพิเศษที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยเชฟยอดฝีมือจนแทบจะลืมน้ำจิ้มเทมปุระแบบเก่าๆ ไปได้เลยเพราะน้ำจิ้มของเราถูกคิดสูตรขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งเจ้าน้ำจิ้มเทมปุระสูตรเด็ดของเราถูกทำขึ้นจากน้ำปลาแห้งคุณภาพดีให้กลิ่นหอมและมีรสชาติหวานเค็มอย่างลงตัว ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจัดจานที่สวยงามแล้ว ทางเรายังคำนึงถึงคุณประโยชน์ของเครื่องเคียงที่นำมาประกอบจานเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของทางร้านจะได้รับความคุมค่าจากการทานอาหารจานนี้มากที่สุด

            นอกจากเมนูเทมปุระรวมแล้ว ทางร้าน Cruise Restaurant ยังมีเมนูอาหารอีกมากมายที่ถูกควบคุมมาตรฐานโดยเชฟยอดฝีมือจากทางร้านพร้อมด้วยวัตถุดิบคัดสรรค์คุณภาพหลากหลายชนิดรอคอยให้คุณมาลิ้มลอง แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเปิดปิดเพราะเวลาที่ยืดหยุ่นตั้งแต่เวลา 11.30น. ไปจนถึงช่วง ตี 3 ของอีกวัน ทำให้ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆ Cruise Restaurant ก็พร้อมที่จะมอบอาหารสุดพิเศษให้กับคุณลูกค้าคนสำคัญออย่างคุณอยู่เสมอ

2. ซูชิรวม

อยากกินซูชิต้นตำรับไม่จำเป็นต้องไปถึงญี่ปุ่น

            วันนี้ Cruise Restaurant ขอนำเสนอเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเมนู “ซูชิ”

            ในประเทศไทยเรานั้นเมนูซูชินับเป็นอีกหนึ่งเมนูจากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันคุณสามารถหาทานซูชิได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง หรือแม้แต่ตามร้านสะดวกซื้อก็ยังสามารถหาทางได้อย่างไม่ยากเลย แต่คุณรู้ไหมว่าซูชิที่ดีจะต้องผ่านกระกวนการผลิตที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบที่นำมาทำซูชิกันเลย อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วคุณอาจจะเริ่มคิดแล้วใช่ไหมว่าการที่จะมีโอกาสได้ลิ้มลองซูชิในแบบต้นตำรับจะเป็นเรื่องยาก หากคุณคิดอย่างนั้นแสดงว่าคุณยังไม่ได้เคยลองทานซูชิของทางร้าน Cruise Restaurant

            ด้วยการรังสรรค์เมนูที่ถูกควบคุมโดยเชฟมากฝีมือของทาง Cruise Restaurant เราเลือกใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพดีที่สุด เริ่มตั้งแต่ข้าวที่เป็นส่วนประกอบสำคัญซึ่งเราได้เลือกใช้ข้าวพันธุ์ซาซานิชิกิ (Sasanishiki) สำหรับข้าวพันธุ์นี้ได้รับรองว่าเป็นพันธุ์ข้าวชั้นหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้เลยว่าข้างที่คุณทานจะมีความหอมอร่อยตามแบบฉบับของทางญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แล้วจึงส่งเข้าสู่ครัว Cruise Restaurant โดยเชฟยอดฝีมือ

            เริ่มต้นกันที่การนำน้ำส้มแดงและน้ำส้มปรุงรสสูตรพิเศษจากเชฟมาคลุกรวมกับข้าวที่นึ่งสุกกำลังดีจนได้เป็นข้าวสำเร็จรูปสำหรับกระบวนการทำซูชิต่อไป มาถึงตรงนี้มันยังดูธรรมดาอยู่ใช่ไหม? แต่ด้วยน้ำส้มแดงและน้ำส้มปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้านจึงทำให้ตัวสีของเนื้อข้าวนั้นมีสีขาวอมน้ำตาลเล็กน้อยซึ่งนั่นทำให้แตกต่างจากซูชิที่เราเคยเห็น ส่วนเรื่องของรสชาติที่กล้าพูดเลยว่าอร่อยอย่าบอกใคร ทั้งนี้ด้วยตัวข้าวที่ผ่านการผสมคลุกรวมกับน้ำส้มปรุงรสสูตรพิเศษนั้นจึงทำให้ตัวข้าวมีรสเปรี้ยวที่ตัดกับรสเค็มอย่างกลมกล่อมกำลังดีตามสไตล์ต้นตำรับก่อนจะนำไปสู่การปั้น ซึ่งในส่วนนี้ทางร้านยังคงเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพเกรดนำเข้ามาทำเป็นหน้าซูชิต่างๆ อาทิ ปลาแซลมอน ปลาซาบะดอง รวมไปถึงเมนูหายากอย่างปลาฮามาจิที่นำเข้าจากจังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจได้เลยว่าวัตถุดิบประกอบการทำเมนูซูชิของทางร้านนั้นอัดแน่นไปด้วยคุณภาพพ่วงด้วยความสดใหม่รอให้ทุกคนได้มาลิ้มลอง

3. ซาชิมิรวม

            “เมนูซาชิมิ” เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผู้คนนิยมสั่งเวลาเดินเข้าร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นมากมายก็มีบริการเมนูซาชิมิไว้คอยบริการอยู่จำนวนมากมาย แค่คุณรู้หรือไม่ว่าเมนูอาหารสดอย่างซาชิมิรวมจะทานให้อร่อยเนื้อปลาชนิดต่างๆ ที่ถูกนำมาเสิร์ฟภายในจานจะต้องสดสะอาดอยู่เสมอและไม่ใช่ว่าทุกๆ ร้านจะสามารถรักษาความสดสะอาดหรือมอบวัตถุดิบคุณภาพให้กับลูกค้าทุกคนได้

            วันนี้ Cruise Restaurant จึงขอพาทุกท่านไปสัมผัสกับเมนูซาชิมิรวม อีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอและอยากให้ทุกท่านได้มาลิ้มลองกันสักครั้ง สำหรับเมนูซาชิมิเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอาหารทะเลสดๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปลาชนิดต่างๆ ทั้งแซลมอน ฮามาจิ ซาบะ รวมถึงอื่นๆ อีกมากมาย เป็นเหตุให้ทาง Cruise Restaurant ได้ทำการคัดเลือกเนื้อปลาที่มีคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลกไม่ว่าจะเป็น เนื้อปลาฮามาจิ ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ปลาแซลมอนจากประเทศนอร์เวย์ กุ้งแดงไซส์ใหญ่จากอาเจนติน่า รวมไปถึงหนวดทาโกะที่นำเข้ามาจากแอฟริกา เพราะเรารู้ว่าการจะทานซาชิมิให้อร่อยนั้นจะต้องได้ทานแบบสดๆ ไร้การปรุงแต่งใดๆ จึงได้ทำการนำเข้าเนื้อสัตว์จากสถานที่ที่มีชื่อเสียงต่างๆ และสามารถมั่นใจได้เลยว่าเนื้อสัตว์ที่ถูกคัดเลือกมาทำเมนูซาชิมิของเราจะสด สะอาด ปลอดภัย อีกทั้งยังถูกควบคุมคุณภาพตามหลักมาตรฐานสากลตั้งแต่ขั้นตอนการจับไปจนถึงการขนส่งเพื่อคงความสดใหม่ของตัววัตถุดิบ

            ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจัดจานที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตามความต้องการไม่ว่าจะมาเพียงแค่คนเดียวหรือจะมาเป็นหมู่คณะทางเราก็พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างแน่นอน นอกจากนี้อีกหนึ่งความพิเศษที่ทางเราได้เตรียมเอาไว้คอยให้บริการลูกค้าที่สั่งซื้อเมนูซาชิมิ นั่นก็คือน้ำซอสสูตรเด็ดที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยเชฟยอดฝีมือจากทางร้าน ทำให้ซอสของทางเรามีรสชาติแตกต่างและกลมกล่อมไปจากน้ำซอสของที่อื่น พร้อมด้วยซอสวาซาบิต้นตำรับที่ไม่ส่งกลิ่นฉุนจนเกินไปไว้ทานคู่กับเนื้อคุณภาพเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยก่อนจะยกเสิร์ฟความสดใหม่ถึงโต๊ะอาหารของคุณ

4. ไก่ย่างรวม 8 ไม้

            “ไก่ย่างรวม” แค่ได้ยินชื่อก็ถึงกับอิ่มกันเลยทีเดียวเพราะทาง Cruise Restaurant มอบความอร่อยให้คุณลูกค้าได้ทานกันเต็มอิ่มถึง 8 ไม้ใหญ่ ซึ่งใน 8 ไม้นั้นเราให้คุณลูกค้าได้เต็มอิ่มกับเนื้อไก่คุณภาพกันถึง 6 ไม้เต็มๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องในไก่หลากหลายส่วนที่เสิร์ฟคู่กันไม่ว่าจะเป็นในส่วน หัวใจ สะโพก ตับ กึ๋นรวมไปถึงลูกชิ้นไก่ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของเมนูจานนี้ ปิดท้ายด้วยผักหรือเห็ดปลอดสารพิษย่างตามฤดูกาลไว้ทานแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดีอีก 2 ไม้ และเมื่อเป็นเมนูของทางร้านแน่นอนว่าอาหารจานนี้ยังคงควบคุมการผลิตโดยเชฟยอดฝีมือในทุกขั้นตอนอย่างเช่นเคยทั้งการย่างหรือการปรุงรส อ่านมาจนถึงตรงนี้คงจะอยากทานกันแล้วใช่ไหม แต่ความพิเศษยังไม่หมดเท่านี้เรายังให้คุณสามารถรีเควสรสชาติที่คุณชื่นชอบได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นรสชาติดั้งเดิมอย่างการย่างเกลือ หรือจะเป็นรสชาติสุดพิเศษผ่านการย่างซอสเทอริยากิซึ่งเป็นซอสที่ถูกคิดค้นขึ้นเป็นพิเศษโดยเชฟของทางร้าน เพราะเราเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละคนมีความชื่นชอบไม่เหมือนกันเราจึงอยากมอบความพิเศษให้ลูกค้าคนสำคัญอย่างคุณด้วยเมนูอาหารทุกรายการของทางเรา รวมไปถึงเมนูไก่ย่างรวมจานนี้ด้วยเช่นกัน

            ถึงตรงนี้คงจะรู้แล้วว่าเมนูไก่ย่างรวมของทางร้านจานนี้จะพิเศษขนาดไหน ด้วยจำนวนที่จุใจถึง 8 ไม้ จึงเหมาะที่จะสั่งมาทานเล่นหรือเป็นเมนูทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วก็คงจะดี ที่สำคัญด้วยจำนวนที่มากถึง 8 ไม้ ทำให้สามารถแบ่งกันทานได้กับคนสำคัญของคุณอย่างไม่ต้องกังวลว่าจะไม่พออิ่ม หากคุณอยากจะลองทานเมนูไก่ย่างสไตล์ญี่ปุ่นจานนี้ เราขอเรียนเชิญที่ Cruise Restaurant ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ออกแบบสูตรอาหารโดยเชฟยอดฝีมือ อีกทั้งทางร้านยังมีอาหารหลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยหรืออาหารสไตล์ยุโรปไว้ให้ลูกค้าสามารถเลือกทานได้ตามความชื่นชอบของคุณอีกด้วย

5. ผัดผักบุ้งไฟแดง

            “ผัดผักบุ้งไฟแดง” อีกหนึ่งเมนูคู่ครัวคนไทยมาอย่างช้านาน ไม่ว่าเราจะไปทานอาหารที่ร้านไหนๆ ก็สามารถหาทานเมนูผัดผักบุ้งไฟแดงได้อย่างไม่ยาก ด้วยส่วนประกอบหลักที่มีเพียงแค่ผักบุ้ง แต่ความพิเศษและเสน่ห์ของมันก็สามารถดึงดูดบรรดานักชิมทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ตกหลุมรักความอร่อยของมันได้อย่างไม่ยากเลย

            เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว ในวันนี้ทาง Cruise Restaurant จึงขอนำเสนอเมนู “ผัดผักบุ้งไฟแดง” ถ้าหากพูดถึงเมนูผัดผักบุ้งไฟแดงคุณคงคิดว่าเป็นเมนูที่มีขั้นตอนเพียงแค่นำผักบุ้งไปผัดในกระทะแล้วค่อยทำการปรุงรสชาติใช่ไหม? ถ้าคุณกำลังคิดแบบนั้นแสดงว่าคุณยังไม่ได้ลองผัดผักบุ้งไฟแดงจากทางร้าน สำหรับเมนูนี้ นอกจากนี้ในส่วนของการปรุงรสชาติทางเชฟได้มีการคิดค้นสูตรเฉพาะขึ้นมาสำหรับเมนูผัดผักบุ้งไฟแดงจึงให้รสชาติที่แปลกใหม่ กลมกล่อมและลงตัว ซึ่งทางร้านยังได้เลือกใช้กระทะเหล็กขนาดใหญ่ที่ให้อุณหภูมิความร้อนส่งสำหรับการประกอบอาหาร ทำให้ตัวผักบุ้งสุกไวแถมยังคงความกรอบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผักบุ้งไว้เอาไว้ได้ดังเดิม และถ้าหากคุณเป็นคนไม่ชอบทานเผ็ดคุณยังสามารถบอกความต้องการของคุณกับเชฟของทางร้านได้โดยตรง เราจะทำการปรุงรสชาติในแบบที่คุณต้องการ

            ถ้ายังตกลงกับเพื่อนไม่ได้ว่าจะทานอาหารประเภทไหนทานทางร้าน Cruise Restaurant ของเรายังมีอาหารมากมายหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ไทย หรือตะวันตก ก็พร้อมรอให้คุณได้มาลิ้มลอง และถ้าหากคุณได้มาที่ร้านก็อย่าลืมสั่งเมนู “ผัดผักบุ้งไฟแดง” มาลองทานกันด้วยนะเพราะไม่ว่าจะสั่งมาทานเล่นหรือสั่งมาเป็นกับแกล้มคู่กับเบียร์เย็นๆ สักแก้ว ก็สามารถเพลิดเพลินกับความอร่อยและอาหารระดับคุณภาพโดยเชฟยอดฝีมือได้อย่างแน่นอน

6. ส้มตำกุ้ง

            แซ่บ แซ่บ แซ่บ แซ่บถึงทรวง เที่ยงวันนี้อยากหาอะไรแซ่บๆ ทานสักจานอย่างส้มตำ แต่เพื่อนคนหนึ่งก็อยากจะทานอาหารญี่ปุ่น อีกคนก็อยากจะทานอาหารไทย  ปัญหาโลกแตกของคนแทบทุกวัยที่ตกลงกันไม่ได้ว่าจะทานอะไรดี ทาง Cruise Restaurant จึงเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่คุณกำลังตามหาอยู่…หลายๆ คนอาจติดภาพว่า Cruise Restaurant เป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในละแวกสีลม แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่านอกจากอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแล้วทางเรายังมีอาหารหลากหลายสไตล์ไว้คอยบริการ แน่นอนรวมถึงเมนูสุดฮิตของชาวไทยเรากับเมนู “ส้มตำ”

            แล้วร้านอาหารญี่ปุ่นจะทำส้มตำอร่อยหรือ? เราจึงขอท้าให้คุณได้มาพิสูจน์ความแซ่บกับเมนู “ส้มตำกุ้ง” ของทางร้าน และอาจทำให้คุณลืมส้มตำแบบเดิมๆ ที่เคยทานไปได้เลย เพราะหากมาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับรสชาติสไตล์ผสมผสานระหว่างไทย-อีสานกับญี่ปุ่น ซึ่งถูกคิดค้นสูตรลับเฉพาะโดยเชฟของทางร้าน ทำให้ส้มตำของทางเรามีรสชาติที่อร่อยและถูกปากนักชิมทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างแน่นอน แถมยังควบคุมการผลิตให้สด สะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพในทุกขั้นตอน โดยเชฟยอดฝีมือของทางร้าน

            สำหรับเมนูส้มตำทางเรายังได้เพิ่มความพิเศษลงไปภายในจานโดยการใช้กุ้งขาวต้มสุกตัวโตๆ เสิร์ฟพร้อมด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับวัตถุดิบระดับคุณภาพที่แตกต่างจากการทานส้มตำตามปกติ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการปรุงรสชาติโดยนำส้มตำสูตรพิเศษที่ออกแบบโดยเชฟยอดฝีมือ ซึ่งคุณลูกค้ายังสามารถบอกระดับความเปรี้ยว-เผ็ดตามที่ชื่นชอบได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเผ็ดซี๊ดสำหรับคนชอบทานเผ็ด หรือจะเผ็ดน้อยสำหรับคนไม่ชอบพริก เราก็ไม่หวั่นขอแค่คุณสั่งมาเท่านั้น

             นอกจากเมนูส้มตำแล้วทางร้าน Cruise Restaurant ยังมีเมนูอาหารอีกมากมายหลายเมนูไว้คอยบริการต้อนรับ (แอบกระซิบว่ามีเมนูไก่ย่างไว้ทานคู่กับส้มตำด้วยนะ) พูดมาขนาดนี้แล้วจะไม่อยากลองไปลิ้มลองความอร่อยหน่อยหรือ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.30 น. จนถึง ตี 3 ทำให้ไม่ว่าคุณจะอยากแซ่บตอนกลางดึก หรืออยากทานอาหารญี่ปุ่นในช่วงเวลาก่อนนอนก็สามารถเดินเข้ามาสั่งอะไรทานภายในร้านได้ทุกเวลา

7. สเต็กแฮมเบอร์เกอร์

            เนื้อวัวชิ้นหนา นุ่มละมุนลิ้นจนแทบจะละลายในปาก เมนูสุดอลังการสำหรับชาว Meat lover

วันนี้ Cruise Restaurant ขอนำเสนอเมนูสุดพิเศษอย่าง “สเต็กแฮมเบอร์เกอร์” เมนูซึ่งเหมาะสำหรับคนรักการทานเนื้อหรือต้องการพลังงานอย่างเต็มเปี่ยมด้วยเนื้อวัวเกรดพิเศษนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียและยังให้น้ำหนักเนื้อที่มากถึง 250 กรัม จึงมั่นใจได้เลยว่าสเต็กเนื้อแฮมเบอร์เกอร์จานนี้พร้อมที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่นักชิมได้อย่างไม่ยาก

สำหรับเมนู “สเต็กแฮมเบอร์เกอร์” เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดพิเศษของทางร้านที่ภูมิใจนำเสนอไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการผลิตที่ถูกควบคุมโดยเชฟยอดฝีมือทุกขั้นตอน อีกทั้งยังใช้เทคนิคการปรุงในแบบลับเฉพาะที่ถูกคิดค้นขึ้นมาสำหรับเมนูสเต็กแฮมเบอร์จานนี้จานเดียวเท่านั้น รวมไปถึงเนื้อเกรดพรีเมียมที่นำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลียซึ่งเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของเนื้อแล้ว ในส่วนของซอสก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของเมนูสเต็กแฮมเบอร์เกอร์จานนี้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะเชฟของทางร้านได้คิดค้นซอสสูตรเด็ดที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบมากมายหลากหลายชนิดแถมยังต้องใช้เวลาเคี่ยวเป็นระยะเวลายาวนานหลายชั่วโมงหรือเกือบจะหนึ่งวันเต็มเพื่อให้ซอสที่ออกมามีรสชาติเข้มข้นส่งกลิ่มหอมและยังเหมาะที่จะทานคู่กับสเต็กเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นหนาโดยเฉพาะ อีกทั้งคุณยังสามารถระบุระดับความสุกของเนื้อให้เป็นไปในแบบที่คุณชื่นชอบเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับเนื้อสเต็กได้อีกด้วย เพราะเราเข้าใจว่าสเต็กที่จะอร่อยที่สุดจะต้องเป็นสเต็กเนื้อที่มีระดับความสุกในแบบที่คุณชื่นชอบเท่านั้น

หากคุณเป็นคนที่ชอบจะทานเนื้ออย่าลืมที่จะนึกถึง Cruise Restaurant เป็นร้านแรก เพราะนอกจากสเต็กเนื้อแฮมเบอร์แล้วทางเรายังมีเมนูที่ใช้เนื้อเกรดนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลกที่มีเชื้อเสียงในด้านคุณภาพของเนื้อวัวมาเป็นส่วนประกอบให้คุณได้เลือกทานอีกมากมายหลายเมนู ซึ่งหลายเมนูของทางร้านได้ใช้เทคนิคและวัตถุดิบสูตรพิเศษที่ไม่สามารถหาทานได้ง่ายๆตามร้านทั่วไป Cruise Restaurant จึงเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่ตอบโจทย์กับ Meat lover อย่างคุณแน่นอน

8. ทีโบนสเต็ก

            อยากจะกินเนื้อให้จุใจ แต่ดูเหมือนว่าเชฟจะไม่เข้าใจ

            เคยไหมเวลาที่คุณไปร้านอาหารแล้วอยากจะทานเนื้อเลยลองสั่งเมนูสเต็กเนื้อมาสักจาน แต่ผลปรากฎว่าเนื้อที่ได้มาบนจานมีเพียงเนื้อชิ้นเล็กๆ จนแทบจะไม่สามารถทำให้อิ่มท้องได้เลย Cruise Restaurant จึงขอนำเสนอเมนูสุดพิเศษสำหรับคนชอบทานเนื้อโดยเฉพาะกับเมนู T-bone steak ที่รับรองว่าแค่เพียงได้อ่านคุณก็แทบจะอิ่มเอมไปกับเมนูของทางเรากันเลยทีเดียว

            สำหรับเมนูทีโบนสเต็ก (T-bone steak) ทางร้าน Cruise Restaurant เลือกใช้เนื้อวัวเกรดพรีเมียมซึ่งนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียดินแดนที่มีชื่อเสียงในด้านคุณภาพและความอร่อยของเนื้อวัว แถมทางร้านยังให้ปริมาณเนื้อสเต็กมากถึง 1 กิโลกรัมเต็มๆ ใช่คุณอ่านไม่ผิด 1 กิโลกรัม!! ด้วยจำนวนที่หนักขนาดนี้แน่นอนว่าคุณควรจะชวนเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจสักคนมาทานเป็นเพื่อนจะดีกว่า เพราะหากคุณมาคนเดียวและลองสั่งเมนูทีโบนสเต็กคุณอาจที่จะทานไม่หมด (หรืออาจหมดก็ได้นะเพราะสเต็กของร้านเราเด็ดอย่าบอกใคร บางทีทานเพลินๆ คนเดียวก็อาจจะหมดโดยไม่รู้ตัว) มาถึงตรงนี้แล้วการใช้เนื้อนำเข้าคงจะไม่ได้เป็นจุดขายเพียงอย่างเดียวของเมนูนี้อย่างแน่นอน สำหรับกระบวนการผลิตก็พิเศษไม่แพ้กัน ทางเราได้นำเนื้อไปหมักกับซอสสเต็กสูตรพิเศษซึ่งถูกทำขึ้นโดยเชฟมากความสามารถของทางร้านจนมั่นใจว่าเข้าเนื้อ ก่อนจะไปสู่ขั้นตอนถัดไปอย่างการ ซูวี (Sous Vide) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้อาหารสุกอย่างช้าๆ ด้วยน้ำอุณหภูมิ 50 – 70 องศาเซลเซียส สำหรับขั้นตอนนี้จะช่วยทำให้เนื้อมีความนุ่มละมุนและยังเป็นการคงความชุ่มฉ่ำไว้ในตัวเนื้อสเต็กไม่ให้แห้งและเลี่ยนจนเกินไป ก่อนจะปิดท้ายด้วยการนำไปย่างซึ่งคุณสามารถเลือกระดับความสุขของเนื้อให้เป็นไปตามที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วย

            อ่านมาจนถึงขนาดนี้แล้วถ้าคุณกำลังหิวก็เดินขึ้นรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT มาได้เลย เพราะทางร้าน Cruise Restaurant ของเราตั้งอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าในซอยธนิยะทำให้สะดวกในการเดินทางไม่ต้องกังวลรถติดอีกต่างหาก แล้วเราจะรอคุณมาพิสูจน์กับความยิ่งใหญ่ของเนื้อ T-bone steak ด้วยตัวเอง

9. สเต็กเนื้อลูกเต๋า

            สเต็กเนื้อลูกเต๋า (Saikoro Steak) เมนูสุดฟินสำหรับคนรักเนื้อที่จะทำให้คุณลืมการทานสเต็กแบบเดิมๆ

            ด้วยเนื้อวัวเกรดพรีเมียมนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียสถานที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความอร่อยของเนื้อวัว โดยนำมาหั่นเป็นเนื้อสเต็กชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ แถมยังให้น้ำหนักเนื้อรวมมากถึง 200 กรัม กันเลยทีเดียว สำหรับเมนูสเต็กเนื้อจานนี้ของ Cruise Restaurant มีชื่อว่า “สเต็กเนื้อลูกเต๋า” ความพิเศษของเนื้อนำเข้ายังไม่หมด สำหรับเมนูนี้ทางเราได้เลือกใช้เนื้อวัวในส่วนสันในซึ่งว่ากันว่าเป็นส่วนที่นุ่มที่สุดของเนื้อวัวไม่แห้งไม่มันจนเกินไปแถมยังแทบจะละลายในปากตั้งแต่คำแรกที่กัดกันเลย นอกจากนี้เมนูสเต็กเนื้อลูกเต๋ายังเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ควบคุมการผลิตโดยเชฟมากความสามารถของทางร้านจึงมั่นใจได้เลยว่าสเต็กของเราจะมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานระดับสากลทั้งสด สะอาด และปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิตรวมไปถึงวัตถุดิบที่เลือกใช้อย่างแน่นอน และสำหรับขั้นตอนการปรุงรสทางร้านได้เลือกใช้ซอสพริกไทยดำสูตรพิเศษและนำมาใช้ในขั้นตอนการหมักซึ่งซอสพริกไทยดำตัวนี้จะช่วยทำให้เนื้อสเต็กมีกลิ่นหอมและได้รสชาติของพริกไทยดำอ่อนๆ เข้ากับเนื้อสเต็กระดับพรีเมียมเป็นอย่างดี ก่อนจะนำไปย่างให้มีระดับความสุกเป็นไปตามที่ลูกค้ารีเควสมา ซึ่งคุณสามารถระบุความสุกของเนื้อได้ทุกระดับตั้งแต่ แรร์ (Rae) ไปจนถึงระดับ เวลล์ (Well) ตามความชื่นชอบของคุณ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจัดจานที่เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงคุณภาพอย่าง มันฝรั่ง แครอท และบอคเคอรี่ปลอดสารพิษจากโครงการหลวงไว้ทานตัดแก้เลี่ยนและทำให้เมนูสเต็กลูกเต๋าจานนี้มีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนอีกด้วย

            นอกจากเมนูสเต็กเนื้อลูกเต๋า ทาง Cruise Restaurant ยังมีเมนูสเต็กเนื้ออื่นๆ อีกมากมายที่ควบคุมการผลิตโดยเชฟมากความสามารถไม่ต่างจากสเต็กเนื้อลูกเต๋าอย่างแน่นอน หากคุณกำลังตามหาร้านสเต็กเจ้าประจำที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหลวงของประเทศแถมยังเดินทางสะดวกมีเวลาเปิดปิดที่ยืดหยุ่น อย่าลืมเก็บ Cruise Restaurant ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคุณด้วยนะ

10. ส้มตำทอด

ถ้าพูดถึงเมนูส้มตำ คุณจะนึกถึงอะไร? ความแซ่บของมัน? หรือว่าจะนึกอาหารอีสาน?

แล้วถ้าหากวันหนึ่งส้มตำถูกทำให้กลายเป็นอาหารญี่ปุ่นล่ะ…

            อีกหนึ่งเมนูติดปากคนไทยกับส้มตำสุดแซ่บ เรียกได้ว่ายิ่งเผ็ดยิ่งถูกใจ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เมนูส้มตำไทยกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อย่างไม่ยาก และถ้าหากมาเยือนประเทศไทยส้มตำก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลิ้มลอง วันนี้ Cruise Restaurant จึงขอนำเสนอเมนูส้มตำ แต่ทว่ามันไม่ใช่เมนูส้มตำตามที่เราคุ้นชินกันแต่มันคือเมนู “ส้มตำทอด”

            “ส้มตำทอด” อีกหนึ่งเมนูอาหารไทยที่ถูกรังสรรค์ขึ้นผ่านไอเดียความคิดสร้างสรรค์และนำไปปรับปรุงต่อยอดจากเชฟมากความสามารถของทางร้านเพื่อผสมผสานรสชาติของอาหารไทยเข้ากับความเป็นญี่ปุ่นจึงเป็นที่มาของเมนูส้มตำทอด สำหรับส้มตำทอดยังเป็นเมนูอาหารที่คงเอกลักษณ์ของมันไว้ตามเดิมโดยการใช้มะละกอดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักและเพิ่มรสชาติด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ก่อนจะนำมาตำรวมกันจนกลายเป็นส้มตำที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนไปในในเมนูนี้คือการเปลี่ยนเจ้ามะละกอดิบให้กลายเป็นอาหารญี่ปุ่นโดยการนำมะละกอมาทำให้กลายเป็นมะละกอเทมปุระสไตล์ญี่ปุ่น ก่อนจะเสริมด้วยวัตถุดิบต่างๆ ที่นิยมใส่ลงไปในส้มตำ แต่สำหรับเมนูส้มตำทอดจานนี้ทางร้านได้เพิ่มความพิเศษโดยการใช้กุ้งขาวต้มและเม็ดมะม่วงหิมพานต์เข้าไปเพื่อสร้างสัมผัสที่แปลกใหม่ ก่อนจะราดด้วยน้ำส้มตำสูตรพิเศษซึ่งเป็นรสชาติที่เชฟของทางร้านได้ออกแบบเอง ทำให้เมนูส้มตำทอดจานนี้มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแซมด้วยรสชาติสุดแซ่บตามสไตล์อาหารไทย-อีสาน อย่างลงตัวรอให้คุณได้มาลิ้มลอง แถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะเผ็ดเกินไปเพราะเราปรุงรสชาติตามระดับความเผ็ดที่คุณได้แจ้งมา

            นอกจากเมนูส้มตำทอดแล้ว ทางร้าน Cruise Restaurant ยังมีอาหารไทยเมนูอื่นๆ อีกมายที่ภูมิใจนำเสนอ แม้ว่าจะเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแต่เราคำนึงถึงความหลากหลายของเมนูเพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการในมีตัวเลือกที่หลากหลายแต่ยังคงรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นที่ผสมผสานลงไปในเมนูอาหารเมื่อได้มาลองทานอาหารของเรา

อ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ..คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เขียนเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

CAPTCHA